วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561

ฟูมฟักรสรักให้เมียสาว 2

“ยังไงวะ”ผมถามมันไปแบบโง่ๆเพราะตอนนั้นนึกอะไรไม่ออกจริงๆ
“ก็แบบพี่ลองนึกดูดิ ตอนที่จีบพี่เป้ใหม่ๆพี่ยังไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอกันดีใช่มะมันยังมีรสชาติสดใหม่คาดเดาไม่ได้อยู่เต็มไปหมดใครชอบอะไร สนใจอะไรแม่งไม่มีทางรู้หรอกมันเลยเหมือนเราได้ค่อยๆปลอกเปลือกกระเทาะความลับของผู้หญิงคนนั้นออกมาก่อนที่จะได้เห็นเนื้อในหวานๆน่าทานข้างใน รอให้เราหยิบชิมน้ำชิมเนื้อ
“ไอ้เหี้ยมึงพูดซะเมียกูกลายเป็นผลไม้ล่อนจ้อนเลย”ผมเงื้อมือจะตบกบาลไอ้น้องรักด้วยความกวนตีนของมัน
“เออพี่ก็อย่าพึ่งขัดผมดิ้แล้วอีกอย่างช่วงจีบกันแม่งมักจะมีคู่แข่งใช่มะยิ่งเวลาเราจีบหญิงคนนั้นติดเนี่ยมันจะรู้สึกเหมือนเราเอาชนะผู้ชายอื่นได้ไงพี่แม่งจะฟินสัด อะดรีนาลีนจะฮึกเหิมแล้วกระปู่เราก็จะแข็งปั๋ง”ไอ้โจ้พูดพลางทำท่ากระเด้าโต๊ะด้วยความเมาหรือแม่งเงี่ยนก็ไม่รู้จนสาวๆโต๊ะข้างๆ อดขำไม่ได้พอมันเห็นแบบนั้นก็รีบยกแก้วส่งสายตาให้สาวน้อยน่ารักคนนึงในกลุ่มทันทีไอ้นี่แม่งเสือผู้หญิงตัวพ่อจริงๆ

“เออๆกูพอจะเก็ตที่มึงพูดละ แหม่ไอ้ห่า สำบัดสำนวนมึงนี่ล่อตีนล่อใจจริงๆสรุปง่ายๆ ก็คือกูต้องกลับไปจีบเมียตัวเองใหม่ใช่มั้ยพาไปกินข้าว พาไปสวีตซื้อของให้พวกนั้น”
“ก็ประมาณนั้นแหละพี่หลักๆ คือมันต้องสร้างบรรยากาศแบบคนจีบกันง่ะให้มีความขวยเขินให้มีอารมณ์แบบรอที่จะเจอหน้าอยากโทรหาบ่อยๆ อ้อแต่ถ้าพี่ขี้เกียจจะให้คนอื่นเค้าจีบเมียพี่แทนก็ได้เหมือนกันนะอันนั้นรับรองแข็งปั๋งชัวร์หรือจะให้ผมลองก็ได้นะฮ่าๆๆๆ” พอสิ้นประโยคสุดท้ายผมเลยได้ฤกษ์เขกกบาลรุ่นน้องตัวเองไปทีนึง

ผ่านไป2-3เดือนผมลองทำตามคำแนะนำที่ไอ้โจ้บอกมาซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดีครับผมกับเป้โทรคุยกระหนุงกระหนิงกันพอเลิกงานก็รีบกลับบ้านมาเจอหน้าทั้งกอดทั้งหอมกันฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงช่วงวันหยุดก็พากันไปเดทตามห้างที่เราเคยควงแขนกันไปสมัยเรียนผิดกันแค่คราวนี้มีเจ้าตัวน้อยพ่วงไปด้วยและทำให้วันดีคืนดีเธอจะมีอารมณ์หื่นๆมาชวนขึ้นเตียงอยู่เป็นระยะๆนั่นคือผลดีที่เห็นได้ชัดแจ่มแจ้งแต่!.....ไอ้เจ้าอาการแข็งไม่เต็มที่และเสร็จไวของผมนี่สิมันดันไม่ยอมหนีหายไปไหนสักที!

“ช่วงนี้บอยเหนื่อยรึเปล่าเนี่ย”เป้ถามหลังจากพึ่งเสร็จภารกิจกับผมไปหมาดๆและเป็นอีกครั้งที่ผมชิงน้ำแตกไปก่อนคนเดียวจนต้องเปลี่ยนมาใช้นิ้วช่วยทำให้เป้จนเสร็จตาม
“ก็ไม่นะงานที่บริษัทก็เรื่อยๆนะช่วงนี้ ทำไมเหรอ”ผมถามทั้งที่พอรู้เหตุผลอยู่แล้ว
“ไม่ใช่ๆเป้หมายถึงว่า เวลาเรามีอะไรกันน่ะหลังๆ บอยรีบทำรีบเสร็จเร็วขึ้นทุกทีเลยแถมบางทียังเหมือนแข็งไม่สุดด้วยบอยไม่มีอารมณ์เหรอ”
“บ้าดิเป้ถ้าไม่มีอารมณ์เราจะชวนมาทำทำไมล่ะ”
“นั่นสิเป้ว่าเป้ก็ยังใสๆ สวยๆอยู่นะ ถ้าบอยไม่เอานี่ก็น่าจะมีคนรอจองอยู่หลายคนนะเนี่ย”เป้พูดพลางทำหน้าทะเล้นเล่นเอาผมหลุดขำก๊ากออกมาแต่ก็อดฉุกใจคิดไม่ได้นี่เป้หมายความว่าไงวะที่ว่ามีคนรอเอา

“อ้าวใครที่ไหนแอบมาจองมาชอบเมียผมอีกเนี่ย”ผมแกล้งถามหยอดๆไป
“หา?อ๋อ..!บ้า!พูดเล่นย่ะอีตานี่ก็ดันจริงจังอีก”
“แน่ใจนาไม่ใช่ว่ามีหนุ่มๆที่ออฟฟิศมาจีบลับหลังนา”
“บอยเอ๊ยยผัวก็มีแล้ว ลูกก็มีแล้วใครที่ไหนมันจะตาถั่วมาเอาล่ะ”เธอตอบพลางเอานิ้วมาบี้จมูกผมเล่นด้วยความหมั่นไส้
“เอ๊าะเหรอออแล้วคุณเมียล่ะครับมีแอบไปชอบหนุ่มๆ ที่ไหนรึเปล่า”
“โอ๊ยยยก็เต็มไปหมดล่ะค่า ทำไงได้ก็อินทีเรียหนุ่มๆที่ออฟฟิศมีแต่เอ๊าะๆ หล่อๆน่ากินทั้งนั้นนี่ค้าา”โอ้โหดูความแสบของภรรยาผมซะก่อนคำพูดคำจาปากร้ายไม่เบา

“ถามจริงๆที่ออฟฟิศมีคนไหนสเป็คเธอมั่งป่ะเนี่ย”ผมยังไม่ยอมแพ้
“แน่ะมาหึงอะไรเอาป่านนี้เนี่ย”
“ไม่ๆๆบอยแค่อยากรู้เฉยๆ เว่ย”
“อ่ะก็มีมั้ง”
“จริงดิคนไหนอ้ะ!?”
“โอ๊ยบอยไม่รู้จักหรอกน้องเค้าพึ่งเข้าได้ไม่นานอยู่ฝ่ายกราฟฟิกนู่น”
“ชื่อรายย?”
“ชื่อ...ชื่อต้น”เป้ตอบเขินๆ
“จะเขินทำไมฟะไหนบอกไม่ได้ชอบไง”ผมอดขำกับอาการของเธอไม่ได้
“ไอ้พี่บ้า!ไม่ได้เขินเฟ้ย”เธอร้องเสียงแหวแล้วตีแขนผมดังเพี๊ยะๆๆ

หลังจากคืนนั้นในหัวผมก็เริ่มคิดถึงคำพูดของไอ้โจ้ขึ้นมาเรื่องที่ว่าเวลามีคนมาจีบแฟนเราแล้วจะคึกคักเป็นพิเศษให้ตายเถอะ แม่งพูดถูกเป๊ะเลยครับแค่คิดภาพว่าเป้กับน้องต้นเค้าเริ่มสนิทชิดเชื้อกันมีหยอกล้อถึงเนื้อถึงตัวกันในหัวควยผมก็แข็งปั๋งแทบจะระเบิดแล้วหรือจริงๆ แล้วนี่คือรสนิยมทางเพศลึกๆของผมวะ พอหึงแล้วถึงควยแข็งเนี่ย??พอผ่านไปอีกหลายอาทิตย์ผมจึงลองถามเลียบๆ เคียงๆเป้ดูถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่

“เป้จ๋า”ผมเอ่ยปากทักหลังจากพาลูกเข้านอนกับคุณยายเรียบร้อยแล้วโดยพยายามไม่ให้ดูมีพิรุธที่สุด
“ว่าไงเหรอ”เป้ถามโดยไม่ได้หันหน้ามามองเธอกำลังง่วนอยู่กับการรวบมัดผมให้เป็นทรงหลังจากอาบน้ำหมาดๆลำคอเรียวระหงของเธอเผยให้เห็นไรขนปลายๆดูน่าซุกไซร้ชะมัดเป้สวมชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งข้างล่างเป็นกางเกงผ้าลื่นขาสั้นกุดสีครีมซึ่งเป็นชุดนอนชุดโปรดของเธอ
“น้องกราฟฟิกที่เข้าใหม่คนนั้นที่บอกว่าหล่อๆ นี่ชื่ออะไรนะ”ผมแกล้งถาม ทั้งๆ ที่จำชื่อได้ขึ้นใจ
“น้องต้นน่ะเหรอทำไมเหรอ” ได้ผลครับคราวนี้เธอหันควับมามองผมเต็มๆด้วยความสงสัย

“เปล่าหรอกก็เห็นบอกว่าตรงสเป็คเป้ไงเลยอยากรู้ว่าลาออกไปรึยัง”
“โอ๊ะตานี่ไปไล่เค้าอีก...ยังย่ะน้องเค้ายังอยู่ดี ผ่านโปรแล้วด้วย”เป้ตอบพลางแลบลิ้นใส่ผม
“นั่นไงดีใจอ่ะดิ อย่าให้รู้นะว่าเดี๋ยวนี้สนิทกันแล้ว”
“ทำมายทำมายยย ถ้าสนิทกันแล้วหึงหราาา”เป้ยังคงกวนผมไม่เลิกยิ่งดูน่ารักน่าตีเข้าไปอีก
“เฮ้ยๆๆอะไรๆ บอกมาเลย นี่ไปสนิทกันตอนไหนเนี่ย”
“ก็แค่รู้จักกันเฉยๆไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นหรอกน่า”
“เหรอๆๆมีแอบไปเที่ยวไปกินข้าวกับน้องเค้ายังเนี่ย”
“โอ๊ยยประจำ วันก่อนก็ยังพึ่งไปร้องคาราโอกะกันมาอยู่เลย....ฮี่ๆๆ”คำตอบของเธอเล่นเอาผมเหวอไปโดยไม่ทันตั้งตัว

“ไปกันเป็นกลุ่มย่ะ!แหมคิดว่าไปเดทกันสองคนรึไงอีตาบ้า”เป้พูดพลางเคาะกะโหลกผมเบาๆสองที
“แล้วไปอย่าให้รู้นะว่าแอบไปเที่ยวกันสองต่อสอง”ผมแกล้งทำท่าหึงเล่นๆ
“ทำไมๆถ้าไปจริงๆ แล้วจะทำไมยะ”เป้ก็ยิ่งยั่วผมต่อ
“เราก็จะแอบหนีไปซั่มกับพลอยมั่งอ่ะดิอิอิอิ”ไม่ทันขาดคำ เป้ก็ฟาดหมอนข้างเข้ากบาลผมเต็มๆทันที เพราะดันพูดชื่อแฟนเก่าผมออกมายั่วโมโหเธอ
“เดี๋ยวโดนๆๆนี่เค้าแค่สมมติว่าไปเที่ยวเฉยๆนะ แต่ของบอยเล่นถึงขั้นไปมีอะไรกับพลอยเลยเหรอโห เลิกๆๆ แบบนี้ต้องเลิกเลยไอ้ผู้ชายหลายใจ ฮึ”เธองอนไม่หยุดจนผมต้องเข้าไปกอดง้อเธออยู่นาน
“โอ๋ๆๆบอยพูดเล่นน่า หายงอนน้า”
“ฮึไปเลย ไม่รักแล้ว ชิ่วๆ”เธอนอนตะแคงกอดหมอนข้างไม่ยอมหันกลับมาหาผม
“อ่ะๆเดี๋ยวเรายอมให้เป้ไปเที่ยวกะน้องต้นวันนึงก็ได้”ผมพูดง้อเธอไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรแต่เธอรีบหันกลับมามองเหมือนงงๆ ว่าทำไมผมถึงพูดแบบนั้นออกมา

“ยังไงเนี่ยประชดหรือยังไง?”
“เปล่านะก็บอกให้ไปเที่ยวได้วันนึงไง”
“จู่ๆนึกไงเนี่ย ตะกี้ยังหึงอยู่เลย”
“ก็ไม่ได้ทำไมหรอกก็แค่ไปเที่ยวกัน เดินเล่นกินข้าวเฉยๆ เหมือนเพื่อนไง”
“มั่ว!เค้าไม่เคยไปเดินเที่ยวสองต่อสองกับเพื่อนผู้ชายตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วย่ะ”
“อ่ะถ้าไม่ใช่เพื่อนงั้นให้เป็นกิ๊กกันวันนึงก็ได้”คราวนี้เป้ทำตาโตเลยครับเหมือนเดาไม่ถูกว่าผมกำลังจะเล่นอะไรกันแน่
“ทำเป็นเก่งๆเดี๋ยวคอยดูเหอะ ไปจริงๆแล้วอย่ามาร้องนา”

“เราอ่ะไม่ร้องหรอกแต่เธอสิไม่แน่ อาจจะร้องเสียงหลงก็ได้นะฮ่าๆๆๆๆ”ผมพูดสวนไปก่อนจะโดนเป้ตีแขนดังเพี้ยะอีกที